วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558

ใบงานที่ 1

รูปแบบการใช้งาน  ข้อดี และข้อจำกัด  ของ Social Media

1. Twitter

การใช้งานทวิตเตอร์ (Twitter)

ทวิตเตอร์ Twitter วิธีสมัคร วิธีเล่นทวิตเตอร์
ภาพวิธีการเขียนทวิตเตอร์

       หลังจากที่คุณได้สมัครเป็นสมาชิกของ Twitter แล้ว เราสามารถเริ่มใช้งาน Twitter ได้ทันที ด้วยการเริ่มต้นด้วยการฝากข้อความ หรือที่เราเรียกว่า "Tweet" ทักทายคนอื่นๆ อย่าลืมเราสามารถบันทึกข้อความได้ไม่เกินครั้ง 140 ตัวอักษร เท่านั้น

คำสั่งพื้นฐานในการใช้งาน Twitter

    Tweet หมายถึง การฝากข้อความบน Twitter
    Tweeple หมายถึง คนที่ใช้งาน Twitter คำว่า Tweeple มาจากคำว่า Tweet + People
    Follow หมายถึง การติดตามบุคคลอื่นๆ ที่เราสนใจ
    Following หมายถึง บุคคลที่คุณติดตามอ่านข้อความของเขาอยู่
    Follower หมายถึง บุคคลที่อ่านข้อความของคุณ
    RT หมายถึง การอ้างอิงข้อความของผู้เล่น Twitter คนอื่นๆ ย่อมาจากคำเต็มว่า Re-Tweet

เริ่มต้น Tweet ครั้งแรก

    คลิกเข้าไปที่ www.twitter.com
    คลิกปุ่ม Sign in ด้านบน เพื่อเข้าระบบ Twitter
    พิมพ์ชื่อ User name หรือ email
    จากนั้นพิมพ์รหัสผ่านหรือ Password
    คลิกปุ่ม Sign in
    หลังจากเข้าไปได้แล้ว?ให้พิมพ์ข้อความที่เราต้องการ Tweet ในช่อง "What?happening?"?
    จากนั้นคลิกปุ่ม "Update"
    ข้อความของเรา ก็จะแสดงที่หน้าต่างนี้ทันที

การรีทวีต Retweet คืออะไร และมีวิธีการอย่างไร

     Retweet (RT) คือ เป็นการอ้างอิงข้อความ Tweet ของบุคคลอื่น เพื่อไม่ให้สาระสำคัญขาดหายไป จึงต้องเก็บข้อความเก่าไว้ด้วย โดยข้อความที่ส่งต่อจะสามารถส่งไปถึงเพื่อนๆ อีกมากมาย ทั้งของเราเอง และเพื่อนของผู้รับด้วย

วิธีการ Retweet

            1. เลื่อนเมาส์ไปวางบนข้อความแล้วคลิก Retweet
ทวิตเตอร์ Twitter วิธีสมัคร วิธีเล่นทวิตเตอร์
รีทวีตด้วยการคลิกที่ปุ่มรีทวีต
 
            2. จากนั้นคลิกปุ่ม Retweet บนไดอะล็อกบ็อกซ์ เพื่อยืนยันการ Retweet
            3. จากนั้นจะแสดงสัญลักษณ์ดังภาพ และ Retweet ข้อความไปที่หน้า Home ให้ทันที

ข้อดี 
1. ทวิตเตอร์สามารถแชร์ข้อมูลข่าวสาร รูปภาพได้รวดเร็ว เพียงแค่ทวิตข้อความ Follower ของคุณก็จะทราบทันที
2. ผู้ใช้สามารถอัพเดตเหตุการณ์ที่กำลังเป็นประเด็นที่ชาวทวิตเตอร์กำลังพูดถึงได้โดยดูจาก Trending เช่น การติดแท็กไว้อาลัยให้เนลสัน แมนเดลล่า โดยใช้แท็ก #RIPNelson Mandela และยังมีอีกแท็กศิลปินเกาหลีสุดฮอทของวันนี้คือ #SuperJuniorTheLastManStanding
3. สามารถแบ่งปันทวิตที่เราชอบและข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ได้โดยการรีทวิต
4. ทวิตเตอร์เป็นพื้นที่ที่แสดงความเป็นตัวเอง โดยจะทวิตบ่นหรือแชร์เรื่องราวอะไรก็ได้ 
5. การอ่านข่าวในทวิตเตอร์จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้ ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่และยังได้รับรู้้ความคิดเห็นของผู้ที่ใช้ทวิตเตอร์คนอื่นๆ
ข้อจำกัด
1. ทวิตเตอร์นั้นเป็นไมโครบล็อก ซึ่งสามารถทวิตข้อความได้ไม่เกิน140 ตัวอักษร หากผู้ใช้ต้องการทวิตข้อความมากกว่า140 ตัวอักษรจะต้องใช้ tweetlonger หรือ twiffo
2. ถ้าผู้ใช้ทวิตข้อความหลายข้อความและรีทวิตอีกจำนวนมากจะประสบปัญหาติดลิมิต ซึ่งก็จะทวิตและรีทวิตไม่ได้ไปชั่วคราว
3. ถ้าตั้งค่าบัญชีของตนเป็น Privacy คนที่ไม่ได้ติดตามเราก็จะไม่สามารถอ่านข้อความที่เราทวิตได้ และฟอลโลเวอร์ของเราก็จะไม่สามารถรีทวิตข้อความของเราได้
      ดังนั้นการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กผู้ใช้จำเป็นต้องมีวิจารณญาณในการเล่น 
เพราะสื่อสังคมออนไลน์นั้นเป็นทั้งสื่อที่มีทั้งคุณอนันต์และโทษมหันต์ในเวลาเดียวกัน

2. instagram
การใช้งาน Instagram
1.เป็นหน้าโปรไฟล์Instagramของเราเองปรับแต่งแก้ไขได้
2. แก้ไขข้อมูลส่วนตัว ชื่อ ตั้งสถานะ ใส่เบอร์โทรศัพท์ได้ครับ
3.ถ้าท่านจะเปลี่ยนภาพโปรไฟล์คลิ๊กที่ภาพเก่าและเปลี่ยนได้เลยครับ
4.แสดงภาพเป็นตารางย่อยๆให้ดูได้ทีละหลายๆภาพครับ
5.แสดงภาพเป็นขนาดใหญ่เลื่อนลงเพื่อดูทีละภาพได้จะโชว์สถานะเพื่อนที่มาถูกใจและบทสนทนา
6.ดูภาพที่ท่านทำการเช็คอินที่ผ่านมา
7.โชว์ภาพที่ผู้อื่นแท็กมาที่เราใครแท็กอะไรมาใน Instagram จะอยู่ในที่นี้ทั้งหมดครับ
8.เมื่อคลิ๊กเข้าไปจะเจอหัวข้อย่อยๆดังนี้ครับ
-ติดตามผู้คน คนหาเพื่อนใน Facebook ,รายชื่อผู้ติดต่อ,เชิญเพื่อน
-บัญชีผู้ใช้ แก้ไขเปลี่ยนระหัสผ่าน, ตั้งความเป็นส่วนตัวโพสต์,ต่างๆที่เราถูกใจ
-บัญชีผู้ใช้ส่วนตัว
-การตั้งค่าบัญชีผู้ใช้Instagramที่เชื่อมต่อ ,การแจ้งเตือน, ตั้งค่ากล้อง
-การสนับสนุนศูนย์ช่วยเหลือ Instagram ,รายงานปัญหา
-เกี่ยวกับการบล๊อกผู้ติดต่อ ,นโยบายความเป็นส่วนตัว, เงื่อนไขการให้บริการ
-ล้างประวัติการค้นหา
-ออกจากระบบสมาชิก
9.แจ้งเตือนสถานะเพื่อนที่กดถูกใจหรือกดติดตามท่าน เช่น
-กำลังติดตาม คือบุลคลที่ท่านกำลังติดตามทั้งหมดในInstagramและทรราบว่าพวกเขาเหล่านั้นกำลังทำอะไรอยู่ครับ เช่นเพิ่มภาพ กดถูกใครบ้าง
-คุณ คือการแจ้งเตือนเพื่อนที่ถูกใจเรากำลังเริ่มติดตามเราหรือเพื่อนใหม่จาก Facebook  ที่พึ่งสมัครสมาชิกเข้ามาระบบInstagram
10.เป็นขั้นตอนที่ท่านจะทำการโพสต์ภาพต่างๆของตัวท่านเองลง Instagram ครับ
10.1 เลือกะอัพโหลดภาพหรือวีดีโอที่มีอยู่ในคลังภาพที่ตัวเครื่องครับ
10.2 เลือกถ่ายภาพจากกล้องโดยตรง
10.3 >เลือกถ่ายวีดีโอจากกล้องแล้วอัพโหลด
10.4 เลือกให้กรอบเส้นโชว์ที่หน้าจอกล้องเพื่อจะได้สัดส่วนที่เหมาะสมในการถ่ายภาพ
-10.5สลับกล้องหน้า-หลัง
10.6ตั้งค่าเปิด-ปิด แฟลช
11ค้นหาเพื่อนๆหรือบุลคลในInstagramที่ท่านต้องการจะติดตามแต่ต้องทราบไอดี Instagram ของบุคคลนั้นด้วยครับใต้เมนูค้นหาจะมีหัวข้อย่อยเพิ่มเติ่มเช่น
-รูปภาพ คือภาพที่ทางระบบInstagramแนะนำให้ติดตาม
-บุคคล คือสมาชิกInstagramที่ระบบแนะนำให้ท่านติดตาม
12.แสดงโพสต์ที่เพื่อนๆหรือคนที่ท่านกำลังติดตามแชร็ร่วมกันครับรวมถึงตัวเราด้วย
13.การส่งข้อความหรือภาพ วีดีโอ หาเพื่อนๆแบบส่วนตัวเห็นได้เฉพาะผู้รับและส่งเท่านั้นสำหรับขั้นตอนการใช้งาน Instagram สำหรับมือใหม่

ข้อดี
   1.  อัพโหลดรูปภาพได้ไม่จำกัด
   2.   มีระบบ Followers และ Following เลือกติดตามบุคคลที่ต้องการได้     
   3. สามารถ Comment และกด Like รูปภาพที่ชื่นชอบได้         
   4.ระบุตำแหน่งที่ถ่ายภาพและแสดงบนแผนที่ (Photo Maps       
   5.Instagram เป็นแอพพลิเคชั่นฟรี 100%
ข้อจำกัด
1.ไม่สามารถส่งข้อความ รูป หรือวิดีโอหาคนที่ไม่ได้ใช้ Instagram ด้วยกันได้
2.ไม่มีลูกเล่นการทำวิดีโอ เช่น ทำ stop motion เหมือน Vine
3.รูปจะต้องถูก crop ให้เป็นสีเหลี่ยมจตุรัส
4.ถึงแม้จะคุยแบบกลุ่มได้ แต่การคุยแบบกลุ่มถูกจำกัดไว้ที่ 15 คนเท่านั้น
5.ต้องมีอินเทอร์เน๊ต

3. youtube 
การใช้ YouTube 
หากคุณยังไม่เคยใช้ YouTube หรือยังไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้ หน้าแรกจะแสดงวิดีโอยอดนิยมและไฮไลต์จากหมวดหมู่ต่างๆ เช่น เพลง กีฬา และเกม
เมื่อคุณลงชื่อเข้าใช้แล้ว คุณจะสามารถค้นหาเนื้อหาที่สนใจได้ง่ายๆ ที่แถบการนำทางที่ด้านบนของหน้า YouTube หากต้องการออกจากระบบหรือเปลี่ยนการตั้งค่าบัญชี ให้คลิกที่ไอคอนช่องที่มุมขวาบนของ YouTube

คำแนะนำ

เปิดคำแนะนำเพื่อเข้าถึงช่อง เพลย์ลิสต์ การติดตาม ประวัติ วิดีโอที่คุณบันทึกไว้ดูภายหลัง และการซื้อของคุณ (หากมี) เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณลักษณะที่สามารถเข้าถึงได้ในคำแนะนำ

หน้าแรก / การติดตาม

หากคุณอยู่ในหน้าแรกของ YouTube คุณสามารถใช้รายการการนำทางที่กึ่งกลางเพื่อสลับมุมมองหน้าแรกของคุณได้ หน้าแรก แสดงรายการเด่นๆ ของวิดีโอแนะนำสำหรับคุณจากการติดตามและประวัติการดู ในขณะที่ การติดตาม ให้คุณดูการอัปโหลดและกิจกรรมล่าสุดจากการติดตามของคุณ

ไอคอนช่อง

หากต้องการเข้าถึงสตูดิโอหรือสลับระหว่างช่อง ให้เลือกไอคอนช่องของคุณที่มุมด้านบนสุดของหน้า สตูดิโอจะมีหน้าแดชบอร์ด, เครื่องมือจัดการวิดีโอ, Analytics และอื่นๆ
ข้อดี
    1.UI เจ๋ง
    2. ดู home feed หรือ stream for any channel
    3.สามารถหมวดหมู่ได้
    4. comments ได้
    5. มี suggested/related videos
ข้อจำกัด
   1.อัพโหลดวีดีโอไม่ได้
   2.log in หลายๆ accounts ไม่ได้
   3.ให้ rate comments ไม่ได้ (thumbs up/down)
   4.เจาะจงตอบ comments ไม่ได้
   5.ไม่ใช่แอพ universal

4. facebook

โพสต์สถานะการโพสต์สถานะ (Status) ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเล่น Facebook เลยครับ เพราะเป็นอัพเดตสถานะล่าสุดของคุณให้กับเพื่อน หรือคนรู้จักของคุณได้ทราบสถานะของคุณ ณ ปัจจุบัน โดยเราสามารถทำได้ดังนี้
2. ใส่สถานะที่คุณต้องการโพสต์ลงไป
3. เสร็จเรียบร้อย คลิ๊กที่ปุ่ม โพสต์
4. สถานะของคุณถูกโพสต์เรียบร้อย
โพสต์รูปภาพ
การโพสต์รูปเป็นอีกหนึ่งลูกเล่นที่ทำให้สถานะของคุณมีความน่าสนใจมากขึ้น เพราะนอกจากเราจะโพสต์สถานะได้แล้ว เรายังสามารถเพิ่มรูปภาพประกอบเพื่อเพิ่มความสวยงามได้อีก โดยสามารถทำได้ดังนี้
1. คลิ๊กที่แท็บ “เพิ่มรูปภาพ/วีดีโอ” ที่บริเวณด้านบน
2. คลิ๊ก “อัพโหลดรูปภาพ/วีดีโอ”
3. เลือกภาพที่ต้องการโพสต์
4. คลิ๊ก Open
5. ระบบจะแสดงตัวอย่างภาพขึ้นมาที่ด้านล่าง คุณสามารถพิมพ์สถานะลงไปได้
6. เสร็จเรียบร้อย คลิ๊กปุ่มโพสต์ได้ทันที
เช็คอินตำแหน่ง
การเช็คอิน คือการแชร์สถานที่ที่คุณอยู่ หรือไปเที่ยวมาลงไปบนไทม์ไลน์ของคุณ โดยสามารถเช็คอินประกอบกับสถานะ หรือภาพถ่ายได้
1. ขั้นแรก เราจะมาเช็คอินพร้อมกับการใส่ภาพ โดยไปที่ “เพิ่มรูปภาพ/วีดีโอ”
2. เลือกภาพที่ต้องการโพสต์ จากนั้นคลิ๊ก Open
3. คลิ๊กปุ่มเช็คอิน
4. พิมพ์ชื่อสถานที่ที่คุณต้องการเช็คอิน เช่น ภาพนี้ถูกถ่ายที่อ่าวพร้าว เราก็ค้นหาชื่อนั้น เมื่อเจอแล้วก็คลิ๊กที่ชื่อสถานที่ที่ต้องการ
5. เสร็จเรียบร้อย แตะปุ่มโพสต์
6. ภาพพร้อมการเช็คอิน ถูกโพสต์ทันที
กดไลค์
ฟีเจอร์หลักอีกอย่างของ Facebook ก็คือการกดไลค์ (Like) หรือการกดถูกใจนั่นเอง ซึ่งเป็นการแสดงออกว่าคุณเห็นด้วย หรือชื่นชอบกับโพสต์นั้นๆ โดยเราสามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
เมื่อเจอโพสต์ที่ถูกใจ คลิ๊กที่ปุ่มถูกใจได้ทันที
แสดงความคิดเห็น
นอกจากกดไลค์แล้ว เราสามารถแสดงความคิดเห็นส่วนตัวลงไปในโพสต์นั้นๆ ได้ดังนี้
1. คลิ๊กแสดงความคิดเห็น
2. พิมพ์ข้อความความคิดเห็นลงไปในช่อง
3. เสร็จเรียบร้อย กด Enter
4. ความคิดเห็นถูกโพสต์ทันที
แชร์
การแชร์ (แบ่งปัน) คือการส่งต่อโพสต์ หรือข้อมูลนั้นๆ ลงไปบนไทม์ไลน์ของคุณ เพื่อให้เพื่อนบน Facebook ของคุณเห็นด้วย คล้ายกับการ Forward อีเมลสมัยก่อน โดยเราสามารถทำได้ดังนี้
1. เมื่อเจอโพสต์ที่ต้องการแชร์ ให้เราคลิ๊กปุ่มแชร์
2. หน้าต่างนี้จะปรากฏขึ้นมา เราจะเพิ่มเติมความคิดเห็นลงไปก็ได้
3. เสร็จเรียบร้อย คลิ๊กที่ แชร์ลิงค์
4. โพสต์ถูกแชร์ทันที
การถูกใจเพจ
การถูกใจเพจ เป็นการติดตามข้อมูล ความเคลื่อนไหวของเพจที่เราสนใจ เมื่อใดก็ตามที่เพจนั้นๆ อัพเดตข้อมูลขึ้นมา ข้อมูลนั้นก็จะแสดงบนวอลล์ของเราทันที โดยเราสามารถทำได้ดังนี้
1. พิมพ์ชื่อเพจที่เราต้องการติดตามลงในช่องค้นหาด้านบน
2. เมื่อเจอแล้ว ให้คลิ๊ก 1 ครั้ง
3. เพจนั้นจะถูกเปิดขึ้นมา ให้เราแตะปุ่ม ถูกใจ
4. เมื่อถูกใจแล้ว ปุ่มถูกใจจะเปลี่ยนไปดังภาพ
5. ข้อมูลต่างๆ จากเพจนั้นจะแสดงขึ้นมาบนหน้าวอลล์ของเราทันที
ลบโพสต์
เมื่อโพสต์ได้ ก็ต้องลบได้ โดยเราสามารถลบโพสต์ของเราได้ดังนี้
1. เปิดโพสต์ที่เราต้องการลบขึ้นมา
2. คลิ๊กที่ปุ่มเมนูเพิ่มเติมตามลูกศรสีแดง
3. เมนูเพิ่มเติมจะแสดงขึ้นมา
4. ให้เราคลิ๊กที่ ลบ
5. คลิ๊กที่ลบโพสต์ เพื่อยืนยันการลบ

ข้อดี
       1.FaceBook จะเป็นการสร้างเครือข่ายและจุดประกายด้านการศึกษาได้อย่างกว้างขวาง หากใช้ได้อย่างถูกวิธี
       2.ทำให้ไม่ตกข่าว คือทราบความคืบหน้า เหตุการณ์ของบุคคลต่างๆและผู้ที่ใกล้ชิด
       3.ผู้ใช้สามารถสร้างเครือข่ายทางสังคม แฟนคลับหรือผู้ที่มีเป้าหมายเหมือนกัน และทำงานให้สำเร็จลุล่วงไปได้
       4.สามารถสร้างมิตรแท้ หรือเพื่อนที่รู้ใจที่แท้จริงได้
       5.FaceBook เป็นซอฟแวร์ที่เอื้อต่อผู้ที่มีปัญหาในการปรับตัวทางสังคม ขาดเพื่อน อยู่โดดเดี่ยว หรือผู้ที่ไม่สามารถออกจากบ้านได้ ให้มีเครือข่ายทางสังคม และเติมเต็มชีวิตทางสังคมได้อย่างดี ไม่เหงาและปรับตัวได้ง่ายขึ้น     ข้อเสีย
       1.FaceBook เป็นการขยายเครือข่ายทางสังคมในโลกอินเตอร์เนต ดังนั้นการมีเพิ่มเพื่อนเครือข่ายที่ไม่รู้จักดีพอ จะทำให้เกิดการลักลอบขโมยข้อมูล หรือการแฝงตัวของขบวนการหลอกลวงต่างๆได้
       2.เพื่อนทุกคนในเครือข่ายสามารถเขียนข้อความต่างๆลง Wall ของ FaceBook ได้แต่หากเป็นข้อความที่เป็นความลับ การใส่ร้ายกัน หรือแฝงไว้ด้วยการยั่วยุต่างๆ จะทำให้ผู้อ่านที่ไม่มีวุฒิภาวะพอ หลงเชื่อ เกิดความขัดแย้ง และปัญหาตามมาในภายหลังได้
       3.Facebook อาจเป็นช่องทางในการสร้างสังคมแห่งการนินทา หรือการยุ่งเรื่องส่วนตัวของผู้อื่นโดยใช่เหตุ โดยเฉพาะสังคมที่ชอบสอดรู้สอดเห็น
       4.การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดให้กับบุคคลภายนอกที่ไม่รู้จักดีพอ เช่นการลงรูปภาพของครอบครัวหรือลูก อาจนำมาเรื่องปัญหาการปลอมตัว หรือการหลอกลวงอื่นๆที่คาดไม่ถึงได้
       5.เด็กๆที่ใช้เวลาในการเล่น Facebook มากเกินไป จะทำให้เสียการเรียน

5. twoo
ข้อดีของการเล่น twoo
1.พบปะผู้คนใหม่ๆ 
2. เป็นแอพที่ฟรี 
3.ใช้ง่าย 
4.สะดวกในการใช้
5.สมบูรณ์แบบในการสร้างมิตรภาพที่ดี
ข้อเสีย
1.อาจจะโดนหลอกได้ง่าย
2.เป็นแอพที่ฟรีก็จริง แต่อาจจะมีส่วนเสียก็ได้
3.ชาวต่างชาติเยอะ
4.ต้องเก่งภาษาอังกฤษเท่านั้น
5.พอจะยกเลิกเล่นยกเลิกยาก

6. xing
ข้อดีของการเล่น xing
1.เป็นกิจกรรมสำหรับของไอโฟน
2.จะช่วยให้คุณ on-the-Go การเข้าถึงมากกว่า 150,000 เหตุการณ์
3.ค้นหาการจัดประชุมสัมมนาและกิจกรรมเครือข่ายในบริเวณใกล้เคียงที่เห็นเหตุการณ์รายชื่อ XING
4.ดูว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปที่รายชื่อของคุณซิงและขยายเครือข่ายของคุณด้วยที่น่าสนใจ Mitteilnehmer
5.  เป็นแอปที่มีศักยภาพที่ดีเยี่ยมสำหรับการเจริญเติบโต
ข้อเสีย
1.มีแต่ภาษาจีน
2.ต้องใช้อินเทอร์เน็ตเล่น
3.อาจจะโดยหลอกได้ง่าย
4.ใช้ได้แต่ ไอโฟน และ ไอแพ็ท
5.เสียเงินเยอะ

7. renren      
ข้อดี ของการเล่น renren
1.ก็มีทุกอย่างๆ ที่ Facebook มี 
2.มีการอัพเดท status การแชร์ภาพถ่าย 
3.มีรายงานข่าวว่าการเข้ามาในตลาดหุ้นของ Renren
4.หาเพื่อนหรือหาตลาดขายสินค้า
5.ได้เจอผู้คนมากมาย
ข้อเสีย
1.สมัครยาก
2.มีแต่ภาษาจีน
3.เล่นยาก
4.อ่านยาก
5.ไม่เข้าใจ

8. vine
ช้อดีของการเล่น  vine
1.เป็นแอพพลิเคชั่น เกี่ยวกับการถ่ายวีดีโอ แล้วแชร์
2.สามารถใช้ ID ของ TWITTER สมัครได้เลย
3.ลดการสั่นไหวของภาพ,
4.เล่นสนุก
5.พบปะผู้คนมากมาย
ข้อเสีย
1.ไม่สามารถสร้างกลุ่มเพื่อคุยแบบเป็นกลุ่มๆได้ (cannot create group message)
2.ไม่สามารถส่งภาพนิ่ง หรือ รูปถ่ายให้ผู้อื่นได้ (ส่งได้แค่ text หรือ video เท่านั้น)
3.ไม่สามารถส่งไฟล์ video ที่มีอยู่ในตัวเครื่องได้ (cannot send videos from Camera Roll)
4..ถ่ายภาพธรรมดาไม่ได้
5.หากคนไม่มีไอดีควรต้องสมัคร 

วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2558

IPV 4 และ IPV 6


IPv4 ทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็น Class ชนิดต่างๆ เพื่อจุดประสงค์ในการใช้งานที่ต่างกันไป ดังนี้ครับ
คลาส A เริ่มตั้งแต่ 1.0.0.1 ถึง 127.255.255.254
คลาส B เริ่มตั้งแต่ 128.0.0.1 ถึง 191.255.255.254
คลาส C เริ่มตั้งแต่ 192.0.1.1 ถึง 223.255.254.254
คลาส D เริ่มตั้งแต่ 224.0.0.0 ถึง 239.255.255.255 ใช้สำหรับงาน multicast
คลาส E เริ่มตั้งแต่ 240.0.0.0 ถึง 255.255.255.254 ถูกสำรองไว้ ยังไม่มีการใช้งาน
สำหรับไอพีในช่วง 127.0.0.0 ถึง 127.255.255.255 ใช้สำหรับการทดสอบระบบ


IPv4 คืออะไร
นักวิจัยเริ่มพบว่าจำนวนไอพีแอดเดรส (IP address) ของ IPv4 กำลังจะถูกใช้หมดไป ไม่เพียงพอกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตในอนาคตจนคาดคะเนกันว่าหมายเลขไอพีแอดเดรสของ IPv4 จะมีไม่พอกับความต้องการในปี ค.ศ. 2010 และหากเกิดขึ้นก็หมายความว่าเราจะไม่สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายเข้ากับ ระบบอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นได้อีก ดังนั้นคณะทำงาน IETF (The Internet Engineering Task Force) ซึ่งตระหนักถึงปัญหาสำคัญดังกล่าว จึงได้พัฒนาอินเทอร์เน็ตโพรโตคอลรุ่นใหม่ขึ้น คือ รุ่นที่หก (Internet Protocol version 6; IPv6) เพื่อทดแทนอินเทอร์เน็ตโพรโตคอลรุ่นเดิม โดยมีวัตถุประสงค์ IPv6 เพื่อปรับปรุงโครงสร้างของตัวโพรโตคอล ให้รองรับไอพีแอดเดรส (IP address) จำนวนมาก และปรับปรุงคุณลักษณะอื่นๆอีกหลายประการ ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและความปลอดภัยรองรับระบบแอพพลิเคชั่น (application) ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลแพ็กเก็ต (packet) ให้ดีขึ้น ทำให้สามารถตอบสนองต่อการขยายตัวและความต้องการใช้งานเทคโนโลยีบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในอนาคตได้เป็นอย่างดี


IPv6 คืออะไร
Internet Protocol version 6 (IPv6) บางครั้งเรียกว่า Next Generation Internet Protocol หรือ IPng ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้ดีในเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูง (เช่น Gigabit Ethernet, OC-12,ATM) และในขณะเดียวกันก็ยังสามารถทำงานในเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพต่ำได้ (เช่น Wireless Network) นอกจากนี้ยังได้มีการจัดเตรียมแพลตฟอร์มสำหรับฟังก์ชันใหม่ๆ ของอินเตอร์เน็ตซึ่งเป็นที่ต้องการใช้ในอนาคต ความแตกต่างระหว่าง IPv6 และ IPv4 มีอยู่ 5 ส่วนใหญ่ๆ คือ ไอพีแอดเดรส (IP address) และการเลือกเส้นทาง (Addressing & Routing) ความปลอดภัย อุปกรณ์แปลแอดเดรส (Network Address Translator : NAT) การลดภาระในการจัดการของผู้ดูแลระบบ และการรองรับการใช้งานในอุปกรณ์พกพา (Mobile Devices)


ความสามารถพิเศษของ IPv6 ที่เหนือกว่า IPv4

1. Management 
การตั้งค่าและปรับแต่งระบบเครือข่าย ในปัจจุบันมีความซับซ้อนมาก IPv6 จึงถูกออกแบบมาให้สนับสนุนการติดตั้งและปรับแต่งระบบแบบอัตโนมัติ(auto configuration) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการจัดสรรปรับเปลี่ยน IP address (Address Renumbering) การเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการหลายราย (Multi homing) และแม้แต่การจัดการเครือข่ายแบบ Plug-and-play

2. Broadcast/Multicast/Anycast
ใน IPv4 ได้มีการจัดสรร IP Address ส่วนหนึ่งเพื่อเป็น Broadcast address แต่ในความเป็นจริงแล้วการสื่อสารแบบ Broadcast เป็นสิ่งที่ไม่มีความจำเป็นและสิ้นเปลือง Bandwidth โดยเปล่าประโยชน์ Multicast เป็นการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากกว่าและเริ่มเป็นที่นิยม IPv6 จึงถูกออกแบบมาให้รองรับ Multicast group address และตัด Broadcast address ออก
นอกจากนี้ IPv6 ยังเพิ่มความสามารถในการสื่อสารแบบ Anycast โดยอนุญาตให้อุปกรณ์มากกว่า 1ชิ้นได้รับการจัดสรร IP address เบอร์เดียวกันซึ่งหมายความว่าอุปกรณ์ชิ้นใดก็ได้สามารถตอบสนองต่อข้อมูลที่ส่งมาที่ Anycast address นั้นๆ

3. Mobile IP
IPv6 สนับสนุนการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบเคลื่อนที่เช่นเดียวกับ IPv4 แต่ว่าการใช้งาน Mobile IPv6 นั้นมีประสิทธิภาพมากกว่า Mobile IPv4 ตรงที่สามารถส่งข้อมูลผ่านเส้นทางที่สั้นที่สุดโดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ตัวกลางในการส่งต่อข้อมูล(Route Optimization)และสามารถใช้ IPSec ในการป้องกันการโจรกรรมแพ็กเก็ตกลางทาง

4. Security
เราเตอร์และอุปกรณ์เครือข่ายทุกตัวในเครือข่าย IPv6 ถูกกำหนดให้รองรับการใช้งาน IPSec นอกจากนี้ยังมีการกำหนด Security Payload สองประเภทคือ Authentication Payload และ Encrypted Security Payload เพื่อสนับสนุนการรับส่งข้อมูลที่มั่นคงปลอดภัย ภายใต้ Network Layer แทนที่จะพึ่ง Application Layer เหมือนในเครือข่าย IPv4











รูปที่ 10 แสดงระบบ Security ที่ใช้ IPv6

5. Virtual Private Network (VPN )
แต่เดิมในเครือข่าย IPv4 การให้บริการ VPN ทำได้โดยใช้ IPSec เพื่อเข้ารหัสข้อมูลใน Network Layer ทั้งหมด ซึ่งจะติดปัญหาหากเครือข่ายต้นทางหรือปลายทางมีการทำ Network Address Translation (NAT) เพราะการเข้ารหัสจะต้องสิ้นสุดก่อนถึงจุดหมายปลายทางสำหรับเครือข่าย IPv6 ไม่มีปัญหาดังกล่าว เพราะไม่มีความจำเป็นต้องใช้ NAT อีกต่อไป นอกจากนี้ยังสามารถใช้ Extended Header ที่เรียกว่า Authentication Header และ Encapsulated Security Payload เพื่อรองรับการใช้งาน VPN แบบปลอดภัย

6. Quality-of-Service
IPv6 ถูกออกแบบมาให้สนับสนุนการรับประกันคุณภาพของบริการตั้งแต่เริ่ม โดยจะเห็นได้จากตำแหน่ง Flow Label และ Traffic Class ในเฮดเดอร์ ถึงแม้ว่าในเฮดเดอร์ของ IPv4 จะมีตำแหน่ง Type-of-Service แต่ไม่มีการใช้อย่างแพร่หลาย เนื่องจากไม่มีมาตรฐานในการกำหนดค่าและเราเตอร์บางตัวเท่านั้นที่สามารถประมวลผลตำแหน่ง ToS ได้ ที่ผ่านมา IPv4 มักปล่อยให้ Layer ข้างล่างจัดการเรื่อง QoS แทน เช่น ผ่านเทคโนโลยี MPLS

7. Maximum Transfer Unit (MTU)
MTU ขั้นต่ำในเครือข่าย IPv4 คือ 576 ไบต์ และถูกเพิ่มเป็น 1280ไบต์ ในเครือข่าย IPv6 การเพิ่มความยาวขั้นต่ำของMTU นี้จะช่วยให้การส่งข้อมูลในเครือข่าย IPv6 มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยช่วยลดสัดส่วนของข้อมูลเฮดเดอร์ต่อข้อมูลทั้งหมด


ที่มา
https://prezi.com/fj-rlppw4jvj/ipv4-ipv6/
http://nattawadee00.blogspot.com/